ต้องยอมรับว่า “มะเร็ง” ยังคงเป็นโรคอันดับหนึ่งที่คร่าชีวิตคนไทยไปมากมาย จากสถิติพบว่ามีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ 139,206 คนต่อปี คิดเป็นวันละ 381 คน โดยมะเร็งที่ตรวจพบมากที่สุด ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Cancer in Thailand Vol.X, 2016-2018)
โดยระยะของมะเร็งจะถูกแบ่งเป็นระยะต่างๆ ตามอาการและขนาดที่แตกต่างกัน ประกอบไปด้วย ระยะที่ 0 เป็นระยะเริ่มต้นของมะเร็งที่ยังอยู่บนชั้นของเซลล์ ยังไม่แทรกเข้าไปในเนื้อเยื่อ เมื่อเข้าสู่ระยะที่ 1 มะเร็งยังอยู่แค่ในอวัยวะที่ตรวจพบเท่านั้น ก้อนเนื้อหรือแผลมะเร็งมีขนาดเล็ก และไม่มีการลุกลาม ต่อมาในระยะที่ 2 ก้อนเนื้อหรือแผลมะเร็งจะมีขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มมีการลุกลามในเนื้อเยื่อหรืออวัยะใกล้เคียง สำหรับระยะที่ 3 มะเร็งเริ่มมีการลุกลามเข้าสู่อวัยวะและต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงมากขึ้น สุดท้ายคือระยะที่ 4 หรือระยะแพร่กระจาย เซลล์มะเร็งจะกระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ โดยสามารถกระจายไปยังกระแสเลือดได้
การดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งมีแนวทางและแผนการรักษาที่แตกต่างกันไปตามระยะของมะเร็ง ในที่นี้จะกล่าวถึงการดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะแพร่กระจาย (ระยะที่ 4) ที่ผู้ป่วยมีความต้องการกลับไปรักษาหรือใช้ชีวิตวาระสุดท้ายที่บ้าน ซึ่งในปัจจุบันการดูแลผู้ป่วยระยะนี้ยังขาดความเข้าใจและการดูแลที่เหมาะสม ผู้ดูแลหรือคนในครอบครัวยังไม่เข้าใจถึงวิธีการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง (Palliative care) ที่เป็นหนึ่งในแนวทางการดูแลผู้ป่วยนอกเหนือจากการรักษาของแพทย์ในสถานพยาบาล โดยมุ่งเน้นการบรรเทาความเจ็บปวด และปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้น ทั้งนี้ รวมไปถึงการดูแลรักษาอาการที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษาจากแพทย์
จากปัญหาข้างต้น เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยเกิดประสิทธิภาพและลดระยะเวลาการเข้าไปพบแพทย์ เนื่องจากจำนวนผู้เข้ารับบริการมีจำนวนมากและผู้ป่วยมีความยากลำบากในการเข้าไปรักษาที่สถานพยาบาล บริษัท เยือนเย็น วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ซึ่งเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม จึงถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งในระยะสุดท้าย หรือโรคเรื้อรังในระยะสุดท้าย และมีความต้องการอยากใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน โดย ศ.ดร.นพ.อิศรางค์ นุชประยูร ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งและชีวาภิบาล ได้เล็งเห็นว่าจะดีแค่ไหนถ้ามีการพัฒนาระบบถาม-ตอบอัจฉริยะ “Advance Care Bot” ที่จะสามารถให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยและผู้ดูแลให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง รวดเร็ว และสามารถให้คำปรึกษาได้ตลอดเวลา โดยระบบจะสามารถให้บริการได้ 3 รูปแบบ ดังนี้ 1) Chatbot เพื่อสนทนาสอบถามความต้องการ ตอบประเด็นข้อสงสัยหรือปัญหา แบบสอบถาม และแนะนำข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ 2) Content โดยรวบรวมทุกองค์ความรู้ที่เป็นประโยนช์ และใช้งานได้จริง จากเว็บไซต์ขององค์กรและบุคคลที่น่าเชื่อถือ 3) Questionnaire ระบบสอบถามผู้ขอเข้ารับบริการ เพื่อคัดกรองประเภทของการบริการให้ตรงกับความต้องการ
นอกจากจะให้คำปรึกษาและรวบรวมแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งแล้ว ยังสามารถให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่มีความกังวลว่าจะเสี่ยงเป็นมะเร็ง เพื่อช่วยคัดกรองผู้ป่วยให้เข้ารับการรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และให้คำปรึกษาด้านสุขภาพอื่นๆ ของผู้สนใจดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรคมะเร็ง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้อีกด้วย
ดังนั้น ระบบถาม-ตอบอัจฉริยะ จึงนับได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยดูแลผู้ป่วยมะเร็งและคนในครอบครัวให้สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากได้อย่างมีประสิทธิภาพ เข้าใจถึงแนวทางการดูแลผู้ป่วยให้สามารถมีความสุขในช่วงสุดท้ายของชีวิตและช่วยให้ผู้ดูแลหรือญาติไม่เกิดความเครียดระหว่างการดูแล ลดภาระการครองเตียงในสถานพยาบาล ลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา และยังช่วยให้ผู้ที่สนใจดูแลสุขภาพรู้ถึงแนวทางการปฏิบัติตน การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการใช้ชีวิตให้ห่างไกลจากมะเร็งมากขึ้น