ใกล้ช่วงวันหยุดยาวประจำปี หรือช่วงวันสงกรานต์นี้ ทุกท่านอาจจะมีการวางแผนท่องเที่ยวกันบ้างแล้ว … แต่หากใครเริ่มเบื่อกับคนจำนวนมากที่แย่งกันกินแย่งกันเที่ยวในเมืองท่องเที่ยวยอดฮิต และยังไม่มีหมุดหมายในดวงใจ เราอยากชวนให้ทุกท่าน มาท่องเที่ยว “เมืองรอง” กันบ้าง … บางทีนอกจากการได้พักผ่อนในช่วงวันหยุดแล้ว คุณอาจจะได้สัมผัสสิ่งใหม่ อย่างที่เมืองใหญ่ไม่มี
ประเทศไทยนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั่วทุกภาคมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกัน และไม่เฉพาะคนในประเทศเท่านั้น แต่ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วโลกอีกด้วย โดยผลสำรวจเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวระดับโลก พบว่า “ประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวลำดับ 4 ที่น่าเดินทางไปเยือนมากที่สุดในโลกหลังสถานการณ์โควิด-19” (ที่มา: Visa Global Travel Intentions Study) และ เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ครองตำแหน่งอับดับ 1 สำหรับสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวและทำงาน (Workation) มากที่สุดในโลก ประจำปี 2565 (ที่มา: William Russell.com) นอกจากนี้ จากการสำรวจของสำนักต่างๆ ในหัวข้อสถานที่ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ และเรื่องความปลอดภัยในการเดินทาง ประเทศไทยก็ยังติดอันดับ Top 10 ของโลกด้วย เช่นกัน
![](https://social.nia.or.th/wp-content/uploads/2023/04/1-1280x1600.jpg)
ภาพและข้อมูลโดย กระทรวงการต่างประเทศ
ทั้งนี้หากใครอยากเที่ยวสถานที่ใหม่ สัมผัสประสบการณ์ใหม่ เราอยากชวนให้ทุกคนลองไปเที่ยว “เมืองรอง” หรือ จังหวัดที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวไปจำนวนมาก ซึ่งยังคงเสน่ห์ของท้องถิ่นไว้อย่างเต็มเปี่ยม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้นิยามคำว่า “เมืองรอง” ไว้ดังนี้ “เมืองรอง หรือ Less visited area หมายถึง เมืองที่ไม่ได้เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก หรือยังมีนักท่องเที่ยวเข้าไปไม่มากนัก การกระจายรายได้ถึงชุมชนท้องถิ่นจึงแตกต่างกับเมืองท่องเที่ยวหลัก เกณฑ์การพิจารณาความเป็นเมืองรองคือ เมืองดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวไม่ถึง 6 ล้านคนต่อปี” ซึ่งปัจจุบัน ททท. ชูการท่องเที่ยว “เมืองรอง” จำนวน 55 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 16 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด ภาคกลาง 7 จังหวัด ภาคตะวันออก 5 จังหวัด และภาคใต้ 9 จังหวัด
![](https://social.nia.or.th/wp-content/uploads/2023/04/2.jpg)
ภาพและข้อมูลโดย เว็บไซต์ Kapook Travel
โดยการเที่ยวเมืองรองเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และมีข้อดีหลายอย่าง ดังนี้
- ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แตกต่างและใกล้ชิดธรรมชาติ การเดินทางไปยังเมืองรอง อาจจะให้ความรู้สึกเหมือนกลับไปสู่การสัมผัสกับธรรมชาติ เนื่องจากเมืองรองเองยังไม่ได้มีการพัฒนาอย่างเต็มที่เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ ที่เต็มไปด้วยอาคารสูง และการค้าที่มีการขยายตัวอย่างมาก มักมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสเน่ห์ไม่เหมือนใคร ซึ่งอาจช่วยเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ และความท้าทายในการเดินทาง
- การได้เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น การไปเที่ยวเมืองรอง นับเป็นการไปเที่ยวเมืองที่มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น ๆ ที่อาจจะได้เรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และการใช้ชีวิตของคนท้องถิ่น หรือกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ
- ราคาที่ถูกกว่า เมืองที่นักท่องเที่ยวยังมีน้อยมักมีค่าครองชีพที่ถูกกว่าเมืองใหญ่ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการของธุรกิจท่องเที่ยวอาจจะไม่สูงเท่าในเมืองใหญ่ นอกจากนี้ ราคาของอาหารและของที่ระลึกในเมืองรองส่วนใหญ่มักถูกกว่าเช่นกัน
![](https://social.nia.or.th/wp-content/uploads/2023/04/3.jpg)
ข้อมูลโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวบรวมโดยสำนักข่าว TNN Online
ปัจจุบันการท่องเที่ยวเมืองรอง ไม่ได้หมายความว่า จะไม่ได้รับความสะดวกสบาย ตรงกันข้าม กลับรู้สึกผ่อนคลาย และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นอย่างเป็นกันเองจากคนในพื้นที่ อีกทั้งยังได้เรียนรู้วิถีชุมชน ปรับสมดุลร่างกายง่าย ๆ เช่น การทานผักพื้นถิ่น การใกล้ชิดกับธรรมชาติ เป็นโอกาสในการใช้โซเชียลมีเดียให้น้อยลง (Social Detox) ทำให้ได้รับแรงบันดาลใจ และเกิดความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ เหล่าบรรดาเมืองรอง ยังเริ่มมีการพัฒนานวัตกรรมการท่องเที่ยวในรูปแบบที่น่าสนใจ เพิ่มสเน่ห์ให้กับการท่องเที่ยวชุมชนที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างหลากหลายและเพิ่มจำนวนมากขึ้น
ทั้งนี้ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) จึงอยากเชิญชวนทุกท่าน ให้ออกเดินทางท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ผ่านการสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชนที่มีการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคมในรูปแบบต่าง ๆ โดยขอนำเสนอตัวอย่างผลงานนวัตกรรมด้านการท่องเที่ยวชุมชนเมืองรองของภาคเหนือที่เครือข่ายองค์กรต่างๆ ร่วมกันพัฒนาขึ้น ได้แก่
1. จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีการส่งเสริม “นวัตกรรมการจัดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพออนเซนสายน้ำแร่วิถีถิ่นคนท่าปาย” โดยเป็นการแช่น้ำแร่ออนเซนจากสายน้ำแร่ธรรมชาติที่มีการบริหารจัดการโดยชุมชน และสำหรับคนที่อยากทำงานแบบอยู่ที่ไหนก็ได้ ก็มีการพัฒนาแพลตฟอร์ม “ดอยสเตอร์ โนแมด: Workation เปลี่ยนไลฟ์สไตล์สู่การทำงานที่มีความสุข” โดยนอกจากจะมีพื้นที่ที่อำนวยความสะดวกในการทำงานแล้ว ยังมีกิจกรรมนอกเวลางานให้เลือกหลากหลาย ตามแต่ไลฟ์สไตล์ เช่น การเดินป่าเส้นทางธรรมชาติ การเลือกโฮมสเตย์กับชาวบ้านซึ่งเป็นชนเผ่าชาติพันธุ์ ทำกิจกรรม Workshop กับชุมชน และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่หาได้ยากในเมืองท่องเที่ยวหลัก
โดย ผู้เขียนและทีมงาน NIA
โดย ผู้เขียนและทีมงาน NIA
2. จังหวัดลำปาง มีตัวอย่าง 2 นวัตกรรมที่อยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวไปเยือน ได้แก่แพลตฟอร์ม “เที่ยวชุมชน ยลมวยไทย อาหารถูกใจไปลำปาง” ซึ่งผลงานนี้ ได้ออกแบบแอปพลิเคชันท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง 3 ภาษา (ภาษาไทย – จีน – อังกฤษ) มุ่งเน้นการท่องเที่ยวบริเวณอำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง โดยจุดเด่น คือการพัฒนาการท่องเที่ยวด้วยการผสานรูปแบบ Offline และ Online อย่างลงตัว โดยนักท่องเที่ยวที่มาจังหวัดลำปาง สามารถหาข้อมูลทางท่องเที่ยวได้ก่อน ผ่านทางเว็บแอปพลิเคชัน ซึ่งมีข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหารไว้อย่างครบถ้วน พร้อมเส้นทางท่องเที่ยวภายใน 1 วัน (One Day trip) ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวพิเศษ เลือกได้หลายหลายรูปแบบตามไลฟ์สไตล์ นอกจากจะได้เยี่ยมชมสถานที่สำคัญในจังหวัดแล้ว ยังมีพิกัดจุดท่องเที่ยว Unseen ต่าง ๆ เช่น ชุมชนทำลูกประคบ ศูนย์เครื่องปั้นเซรามิกชุมชน กลุ่มทอผ้ากี่กระตุก หรือแม้แต่เที่ยวค่ายมวย ซึ่งทุกสถานที่จะมีกิจกรรมสนุกๆ ให้นักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมตลอดทั้งวัน นอกจากได้เที่ยวแล้ว ยังได้อุดหนุนของกินของฝาก จากผลิตภัณฑ์ชุมชนซึ่งออกแบบมาอย่างสวยงาม เช่น น้ำมะขามเปียกลำปาง ผลิตภัณฑ์ตุงล้านนาเล็ก โมบายใบจาก เป็นต้น
อีกหนึ่งแห่งในจังหวัดลำปางที่น่าสนใจ คือ ผลงานชื่อว่า “”Craft Therapy Studio”: การท่องเที่ยวเชิงหัตถศิลปบำบัด” พัฒนาโดยกลุ่มศิลปินหัตถศิลป์ สวนเป็นศรี จังหวัดลำปาง ภายในบริเวณสวนมีการจัดกิจกรรมโดยมีเป้าหมายเพื่อนำหัตถศิลป์มาบำบัดความเครียด อาทิ 1) การผลิตผ้ามัดย้อม 2) การผลิตเซรามิก และ 3) การเผาเซรามิกแบบรากุ ซึ่งกระบวนกิจกรรมนั้นเป็นการออกแบบร่วมกันระหว่าง ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา และศิลปินหัตถศิลป์ นับเป็นกิจกรรมที่มีความโดดเด่น มีความสนุกสนาน และนักท่องเที่ยวยังได้ของฝีมือตัวเองกลับเป็นที่ระลึกด้วย
![](https://social.nia.or.th/wp-content/uploads/2023/04/p002.jpg)
โดย เว็บไซต์ Sarakadee Lit
3. จังหวัดพะเยา ผลงาน “ห้องเรียนสถาปัตยกรรมสําหรับเด็ก โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน ชุมชนบ้านบัว จังหวัดพะเยา” กิจกรรมเรียนรู้ชุมชน โดยการเปิดหลักสูตรให้เด็กนักเรียนหรือผู้ที่สนใจ เข้าร่วมการเรียนรู้ผ่านการเดินเที่ยวในชุมชน โดยลองสังเกตลักษณะรูปทรงบ้าน และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ในบริเวณชุมชนบ้านบัว ตำบลบ้านตุ่น อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ซึ่งถึงแม้พื้นที่จะอยู่ในอำเมืองเมือง แต่ชาวบ้านในชุมชนยังอนุรักษ์วิถีชีวิตกึ่งชนบทไว้ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงสถาปัตยกรรมของบ้าน การทำขนมด้วยวิธีท้องถิ่น ต้นไม้เก่าแก่ และวิถีทำเครื่องสานด้วยมือ โดยในช่วงเช้าผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เริ่มเดินเรียนรู้ในชุมชน ซึ่งแบ่งเป็นฐานต่างๆ ในบริเวณรอบหมู่บ้าน และในช่วงบ่ายมีกิจกรรม Workshop โดยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจินตนาการบ้าน และวิถีชุมชน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการเยี่ยมชมหมู่บ้าน ออกมาในรูปแบบการสร้างตัวต่อด้วยเครื่องมือการเรียนรู้ ที่เรียกว่า “ชิ้นส่วนประกอบจากธรรมชาติ” เป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทั้งครอบครัว ทั้งสนุก และได้รับความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากพี่ๆ ป้าๆในชุมชนตลอดทั้งวัน
โดย ผู้เขียน
“เราเชื่อว่าการออกไปเที่ยวเมืองรอง ยังมีเสน่ห์อีกหลายอย่าง รอคุณไปค้นพบ เก็บกระเป๋าแล้วออกไปเรียนรู้นวัตกรรมการท่องเที่ยวเมืองรอง…จากเมืองที่เคยเป็นแค่ที่สอง หากได้ลองสัมผัส แล้วมุมมองของคุณจะเปลี่ยนไป”
สำหรับผู้ที่มีแนวคิดและนวัตกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อสังคม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA พร้อมสนับสนุนท่าน เปลี่ยนไอเดียเป็นนวัตกรรมที่สามารถช่วยสร้างรูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ได้จริง โดยสามารถติดตามรายละเอียดการประกาศให้ทุนสนับสนุนโครงการได้ที่ www.social.nia.or.th
ช่องทางการติดต่อสอบถามกิจกรรม
![](https://social.nia.or.th/wp-content/uploads/2023/04/t001.jpg)
อ้างอิงข้อมูลจาก
- ข่าวธุรกิจท่องเที่ยว “เจ๋ง!ไทยติดอันดับโลก ปี2565 กวาด14 รางวัล “ท่องเที่ยว”โชว์ท็อปฟอร์มสุด” วันที่ 14 ก.ค. 2565 เว็บไซส์ ฐานเศรษฐกิจ (ฐานเศรษฐกิจ, 2022)
- บทความ “ทำความรู้จัก ‘เมืองรอง’ คืออะไร และ 55 จังหวัดน่าไปมีที่ไหนบ้าง” วันที่ 25 เม.ย. 2562 สำนักข่าวโพสต์ทูเดย์ (โพสต์ทูเดย์, 2019)
- หน่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคม เพื่อนำนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดย วิทยาลัยพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีชุมชนแห่งเอเชีย (adiCET) มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
- หน่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคม ประจำพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดย สถาบันนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยพะเยา
ขอบคุณรูปภาพจาก
- ผลการจัดอันดับของไทย จากผลสำรวจทั่วโลก ประจำปี 2565 วันที่ 23 ก.ค. 65 Facebook กระทรวงการต่างประเทศ Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand https://www.facebook.com/photo.php?fbid=418193573683069&set=pb.100064772884025.-2207520000.&type=3
- บทความ “เที่ยวเมืองรอง ชี้พิกัด 55 เมืองรอง กับที่เที่ยวสวย ๆ ทั่วไทย” วันที่ 5 ม.ค. 2561 เว็บไซต์ กระปุก – ท่องเที่ยว https://travel.kapook.com/view186037.html
- บทความ “เปิดจุดเช็กอิน จังหวัดท่องเที่ยว “เมืองรอง” มีที่ไหนอัปเดตบ้าง?” วันที่ 27 ต.ค. 2564 เว็บไซต์สำนักข่าว TNN Thailand https://www.tnnthailand.com/news/tnnexclusive/94338/
- บทความ “สวนเป็นศรี : อาร์ตสเปซที่ชวนมาทำเซรามิกรากุ และผ้ามัดย้อมชิโบริ” วันที่ 29 มี.ค. 2566 เว็บไซต์ Sarakadee Lite https://www.sarakadeelite.com/lite/suanphensri-lampang/
- ทีมงาน NIA, หน่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคม (SID-AT UN และ SID UN) และ เจ้าของผลงานนวัตกรรม
บทความโดย
พิชญาภา ศิริรัตน์ (กิ๊ฟ)
นักพัฒนานวัตกรรม ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อสังคม
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)