ในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี เราจะได้เห็นการเฉลิมฉลองกันของผู้คนทั่วโลก ที่เรียกเดือนนี้ว่าเป็น “Pride Month” หรือเดือนความภาคภูมิใจ โดยเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนที่นิยามตนเองว่าเป็น LGBTQ+ (Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender, Queer/Questioning, and others) และผู้คนอื่น ๆ ที่อาจนิยามตนเองว่าเป็นเพศชายหรือเพศหญิงแต่สนับสนุนสิทธิมนุษยชนของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ร่วมกันรำลึกถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิทางสังคมของ LGBTQ+ ในการสร้างความเข้าใจต่อสังคมถึงการมีอยู่ของคนผู้คนที่มีเพศหลากหลายมากกว่าแค่เพศชายหรือเพศหญิง อันจะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรีแม้ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม
อย่างในประเทศไทยเอง ก็ได้มีการจัดงาน “บางกอกไพรด์ 2023” ขึ้นในวันอาทิตย์ ที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มีชื่อเสียง เช่น ดารา ศิลปิน และนักการเมือง ต่างก็เข้าร่วมเฉลิมฉลองขบวนพาเหรดสีรุ้ง จนกลายเป็นมหานครแห่งสายรุ้ง รวมไปถึงการจัดกิจกรรมและขบวนพาเหรดในพื้นที่อื่น ๆ นอกกรุงเทพ เช่น แม่สอดไพรด์ (จ.ตาก) บุรีรัมย์ไพรด์ (จ.บุรีรัมย์) อุบลไพรด์ (จ.อุบลราชธานี) หาดใหญ่ไพรด์ (จ.สงขลา) สกลไพรด์ (จ.สกลนคร) อีสานไพรด์ (จ.ขอนแก่น) พัทยาอินเตอร์เนชั่นแนลไพรด์ (จ.ชลบุรี) อุดรไพรด์ (จ.อุดรธานี) และในเร็ว ๆ นี้จะมีการจัด ระยองไพรด์ ขึ้นที่ จ.ระยอง ในวันที่ 30 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม นี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า สังคมไทยและสังคมอื่น ๆ ทั่วโลกมีการเปิดกว้างต่อความหลากหลายทางเพศและการรับรู้ถึงความหลากหลายในแง่ของเพศและเพศวิถีมากยิ่งขึ้น การให้ความสำคัญต่อความหลากหลายทางเพศนั้นสร้างโอกาสให้กับผู้คนที่มีประสบการณ์และอัตลักษณ์ทางเพศที่หลากหลาย นำไปสู่การสร้างพื้นที่ให้ผู้คนได้เปิดเผยตัวตนได้อย่างเต็มที่ และสร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมที่สนับสนุนผู้คนที่มีเพศที่หลากหลายได้อย่างเหมาะสม
ดังนั้น การคิดค้นนวัตกรรมที่สร้างความเสมอภาคและสนับสนุนความหลากหลายทางเพศมีความสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในมิติความแตกต่างของเพศ โดยคำนึงถึงความเสมอภาคของทุกเพศในการเข้าถึงคุณภาพชีวิตและโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงสร้างสังคมที่เปิดกว้างความหลากหลายทางเพศมากขึ้น ที่นอกจากจะช่วยให้สังคมมีความเสมอภาคและยอมรับความหลากหลายทางเพศของผู้คนแล้ว ยังสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจและสังคม ที่สามารถส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน โดยบริบทของสังคมในปัจจุบัน มีโอกาสอีกมากมายในการนำนวัตกรรมเข้าไปแก้ปัญหาในมิติต่าง ๆ ดังนี้
การเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิงและ LGBTQ+
ในอดีต ผู้หญิงและ LGBTQ+ อาจถูกจำกัดในการเข้าถึงสิทธิและบทบาทต่าง ๆ ในเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้น การคิดค้นนวัตกรรมที่ช่วยเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิงและ LGBTQ+ ให้ได้มีส่วนร่วมและบทบาทที่สำคัญในองค์กรและการตัดสินใจ หรือนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มทักษะต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมการศึกษา การเตรียมความพร้อมทางอาชีพ และโครงสร้างการบริหารที่เปิดโอกาสแก่ผู้หญิงและกลุ่ม LGBTQ+ จะสามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตเพิ่มขึ้นได้ ควบคู่ไปกับการลดช่องว่างระหว่างการผูกขาดทางอำนาจของผู้ชายในสายงานต่าง ๆ
ตัวอย่างนวัตกรรมที่เสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิง ได้แก่ โครงการ Girls Who Code เป็นโครงการที่สร้างทักษะด้านเทคโนโลยีและการเข้าใจในเทคโนโลยีให้กับเด็กผู้หญิง โดยให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสในการศึกษาและการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี ทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติ เช่น การจัดอบรมการเขียนโปรแกรม การพัฒนาเว็บไซต์ การสร้างแอปพลิเคชัน และการทำงานกับฮาร์ดแวร์ และทักษะด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและความชำนาญในการใช้เทคโนโลยีให้กับผู้หญิง เป็นต้น
การป้องกันความรุนแรงและอาชญากรรมทางเพศ
ความรุนแรงและอาชญากรรมทางเพศเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในสังคมทั่วโลก โดยในระยะหลังสังคมเริ่มตระหนักถึงปัญหานี้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) ที่มีความรุนแรงตั้งแต่ระดับวาจาไปจนถึงระดับอาชญากรรม
ตัวอย่างนวัตกรรมที่น่าสนใจ เช่น bSafe แอปพลิเคชันบนมือถือที่ป้องกันการถูกคุกคามทางเพศและอันตรายอื่น ๆ โดยมีฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น สามารถติดตามตำแหน่งที่อยู่ด้วย GPS การตั้งเวลาเพื่อส่งข้อความขอความช่วยเหลือถึงเพื่อนหรือคนในครอบครัว ตลอดจนมีฟีเจอร์ Fake Call เอาไว้แกล้งโทรศัพท์ตอนกำลังถูกเดินตาม หรือมีปุ่ม SOS เพื่อแจ้งหน่วยกู้ภัย เป็นต้น
การยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพ สุขภาวะทางเพศ และอนามัยเจริญพันธุ์
การเข้าถึงบริการสุขภาพที่เสมอภาคและคำนึงถึงความหลากหลายทางเพศเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพทางกายและสุขภาพจิตให้กับทุกคนในสังคม เช่น การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพสำหรับเพศต่าง ๆ โดยเฉพาะการกระจายการเข้าถึงการดูแลสุขภาวะทางเพศและวัคซีนป้องกันโรค การประกันสุขภาพและระบบคัดกรองของผู้เข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศที่มีความพร้อม หรือแม้แต่การเพิ่มความสามารถในการวิจัยและการเสนอข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับสุขภาวะทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์ที่เที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างนวัตกรรมด้านการบริการสุขภาพของไทยที่น่าสนใจ เช่น Pulse Clinic คลินิกไทย ที่ส่งเสริมสุขภาวะทางเพศแบบองค์รวมโดยไม่มีการตีกรอบหรือตัดสินความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม LGBTQ+ ซึ่งมีการให้บริการตั้งแต่การตรวจคัดกรอง การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ การให้คำปรึกษา การรักษา การจ่ายยา ตลอดจนถึงการรักษาโดยแพทย์ทางเลือก เป็นต้น
การสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับทุกเพศ
สภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับทุกเพศเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสังคมที่เสมอภาคและสนับสนุนการใช้ชีวิตของเพศต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยจะเห็นความพยายามในการออกแบบพื้นที่สาธารณะและสถาปัตยกรรมที่คำนึงถึงความต้องการและประสิทธิภาพการใช้งานของทุกเพศ การออกแบบโครงสร้างองค์กรที่เป็นมิตรกับทุกเพศ รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่สนับสนุนความสามารถและความสะดวกสบายของทุกเพศในสถานที่ทำงานและชีวิตประจำวัน
Toalett för alla (ห้องน้ำสำหรับทุกคน) คอนเซปต์ห้องน้ำสาธาณะจากสวีเดน เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ โดยอาศัยการออกแบบที่มีเป้าหมายเพื่อรองรับผู้ใช้งานทุกเพศและเพศอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยมีการรองรับการใช้งานที่หลากหลายอันเนื่องมาจากเพศสรีระ หรือเหตุผลทางด้านสุขภาวะทางเพศ เช่น การมีอ่างล้างหน้าอยู่ในห้องน้ำสำหรับล้างมือกรณีต้องเปลี่ยนผ้าอนามัย เป็นต้น
การเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมและสังคมเพื่อลดอคติทางเพศ
บรรทัดฐานทางสังคมและวัฒนธรรม มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคม การเลือกปฏิบัติ หรือการมีอคติทางเพศนั้น ล้วนเกิดจากความเชื่อและคุณค่าที่สังคมนั้น ๆ ให้ไว้ จนนำไปสู่การสร้างบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมและสังคมเพื่อควบคุมพฤติกรรมของผู้คนในสังคมตามมา ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมและสังคมในการลดอคติทางเพศ จะช่วยเปลี่ยนทัศนคติให้คนในสังคมเข้าใจและยอมรับความแตกต่างของเพศต่าง ๆ ที่มีอยู่ในสังคมมากขึ้น ลดทอนความเชื่อเดิมที่ปิดกั้นโอกาสทางสังคมที่เกี่ยวกับเพศ และเปิดโอกาสให้กับเพศต่าง ๆ ได้แสดงศักยภาพ และได้ใช้ชีวิตตามแบบที่เขาเป็นอย่างมีศักดิ์ศรี
โดยโครงการที่สามารถสร้างค่านิยมใหม่ในกลุ่มผู้ชาย ได้แก่โครงการ MenCare ที่มุ่งเน้นพัฒนาบทบาทของชายในการเลี้ยงดูเด็กและผู้สูงอายุ โดยเน้นการเปลี่ยนแปลงทั้งความคิดและพฤติกรรมของผู้ชายเพื่อทลายกรอบความเชื่อเดิม อันนำไปสู่ความเชื่อใหม่ที่ว่า ผู้ชายก็สามารถดูแลเด็กและผู้สูงอายุได้ดีเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ผู้ชายเห็นความอ่อนโยนในตัวเอง และมีส่วนร่วมในการดูแลคนในครอบครัวมากยิ่งขึ้น
นวัตกรรมที่กล่าวมาทั้งนั้นหมดนั้น เป็นตัวอย่างของนวัตกรรมที่สามารถสร้างความเท่าเทียมกันของทุกเพศในสังคม และยังสนับสนุนให้เกิดสังคมที่เปิดรับความหลากหลายทางเพศได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยในวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 นี้ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จึงได้เปิดรับสมัครโครงการ “City & Community Innovation Challenge 2024” ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมที่สร้างความเสมอภาคและสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ” โดยเฟ้นหาโครงการนวัตกรรมที่มุ่งเน้นการสร้างความเสมอภาคและสนับสนุนความหลากหลายทางเพศให้เกิดขึ้นในสังคมไทยมากขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะได้เห็นนวัตกรรมที่ช่วยสร้างโอกาสที่เสมอภาคและสังคมที่อยู่ร่วมกันได้ไม่ว่าเพศใดก็ตาม
ผู้เขียน : นายวงศกร จูเจี่ย (เฟรนด์)
นักพัฒนานวัตกรรม ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อสังคม
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)