เมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา อุณหภูมิสูงสุดของกรุงเทพมหานครสูงมากกว่า 40 องศาเซลเซียส นับเป็นสถิติใหม่ของ “ความร้อนระอุ” ที่ชาวกรุงเทพฯ สัมผัสได้โดยตรง อีกทั้งก่อนหน้านั้น ก็ยังมีปัญหา “ฝุ่นควัน” มลพิษทางอากาศของคนเมืองที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งคอยรังควานระบบทางเดินหายใจของชาวกรุงเทพฯ อยู่เสมอ ทำให้แผนกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหลายต้องถูกพับเก็บไปเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาทั้งสองด้านนี้
วิธีหนึ่งที่จะสามารถบรรเทาปัญหาอากาศร้อนและปัญหาฝุ่นควันได้ในเวลาเดียวกัน นั่นคือ การปลูกต้นไม้ ซึ่งเป็นวิธีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวบริเวณชุมชนเมืองที่ประสบความสำเร็จในหลาย ๆ ประเทศ เช่น ประเทศสิงคโปร์ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองที่เขียวที่สุดในเอเชีย ด้วยนโยบาย “City in a Garden” ที่ผลักดันให้มีการออกแบบเมืองโดยมีธรรมชาติผสมผสานอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คน ทั้งสวนสาธารณะ สถานที่ท่องเที่ยว หรือแม้แต่ที่พักอาศัย ทำให้สิงคโปร์มีสัดส่วนพื้นที่สีเขียวต่อจำนวนประชากรมากถึง 66 ตารางเมตรต่อคน และอีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจ คือ เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน ที่อาจจะไม่ได้มีความโดดเด่นในแง่ของปริมาณพื้นที่สีเขียว แต่รัฐบาลเมืองไทเปได้ร่าง “กฎหมายคุ้มครองต้นไม้” ขึ้นมา เพื่อลดการตัดต้นไม้ในเมือง เช่น ต้นไม้ที่สูง 15 เมตรขึ้นไป ต้นไม้ที่มีอายุเกิน 50 ปี หรือต้นไม้ที่มีความสำคัญด้านวัฒนธรรมในท้องถิ่น ทำให้ไทเปเป็นเมืองที่ต้นไม้ใหญ่แทรกอยู่ตามถนนหนทางและบ้านเรือนของผู้คน โดยที่ไม่มีสายไฟฟ้าหรือสิ่งก่อสร้างใดมากีดขวางกิ่งก้านของต้นไม้
กรุงเทพมหานครเองก็ได้ให้ความสำคัญกับการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองเช่นกัน จึงนำมาซึ่งโครงการ “ปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น” เพื่อสร้างกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง โดยมีเป้าหมายทางตรง คือ การปลูกเพื่อลดฝุ่น ลดมลพิษ ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และการปลูกให้เกิดร่มเงาในการใช้ชีวิต เป้าหมายทางอ้อม คือ การส่งเสริมความหลากหลายของระบบนิเวศ และการสร้างรายได้จากการเพาะกล้าไม้จำหน่าย ทั้งนี้ เป้าหมายระยะยาวของโครงการ คือ การปลูกเพื่อให้คนและต้นไม้โตไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งในเดือนมิถุนายน 2565 โครงการนี้ ก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ และได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากทุกภาคส่วน ทั้งประชาชนทั่วไป หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน แต่เมื่อต่างคนต่างปลูก ก็เป็นการยากที่ประชาชนทั่วไปจะติดตามความก้าวหน้าของโครงการว่าขณะนี้มียอดปลูกต้นไม้ไปเท่าไร และยังอีกไกลแค่ไหนที่จะบรรลุเป้าหมาย 1 ล้านต้น นอกจากนี้ เมืองใหญ่ทั้งหลายยังขาดระบบที่ใช้สำหรับบันทึกการปลูกต้นไม้ ตรวจสอบ และติดตามการปลูกต้นไม้ของทุกภาคส่วน อีกทั้งยังไม่มีพื้นที่รวบรวมข้อมูลจำนวนต้นไม้ ทำให้ไม่สามารถดูภาพรวมความคืบหน้าของการปลูกต้นไม้ของแต่ละภาคส่วนได้ ดังนั้น บริษัท โอเพ่น ดรีม จำกัด จึงได้พัฒนาระบบรายงานการปลูกต้นไม้บนเว็บไซต์ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า “Bangkok Tree” เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถรายงานการปลูกต้นไม้ผ่านระบบได้อย่างสะดวก และสามารถติดตามความคืบหน้าของการปลูกต้นไม้แบบเรียลไทม์ ในรูปแบบของแผนที่
Bangkok Tree เป็นนวัตกรรมระบบรายงานการปลูกต้นไม้สำหรับภาคประชาชน ภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มของประชาชน ที่สามารถ Add LINE เพื่อบันทึกข้อมูลต้นไม้ที่ปลูก โดยถ่ายรูป เลือกพันธุ์ไม้ และปักหมุด Location แผนที่ได้ด้วยตนเอง รวมถึงสามารถดูประวัติการปลูกได้ และกลุ่มของหน่วยงานหรือบริษัท ที่จะต้องมีตัวแทนลงทะเบียนสร้างบัญชีผู้ใช้งานในระบบ เพื่อให้ Bangkok Tree ทำการอนุมัติก่อน แล้วจึงบันทึกการปลูกต้นไม้ของหน่วยงานของตนได้ ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนสามารถติดตามความคืบหน้าของการปลูกต้นไม้แบบเรียลไทม์ได้บนหน้าเว็บไซต์ ซึ่งมีการแสดงผลในรูปแบบของแผนที่แยกตามเขตต่าง ๆ และบอกจำนวนต้นไม้ที่ปลูกโดยแต่ละภาคส่วนในเขตนั้น ๆ รวมถึงมีการแสดงความเข้มของสีตามประเภทของต้นไม้ นั่นคือ สีเขียวเข้มแสดงถึงไม้ยืนต้น สีเขียวระดับกลางเป็นไม้พุ่ม และสีเขียวอ่อนจะเป็นไม้เลื้อยหรือไม้เถา โดยนวัตกรรมนี้ ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคม ประจำพื้นที่ภาคกลาง ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในปี 2566 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสำนักงานเขต และหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกรุงเทพมหานคร
ในปัจจุบัน (ณ เดือนพฤษภาคม 2567) ได้มียอดการปลูกต้นไม้ของทุกภาคส่วนรวมแล้วกว่า 940,108 ต้น หรือก็คือสำเร็จไปกว่า 94% แล้วนั่นเอง ซึ่ง 755,154 ต้นในยอดนี้ ปลูกโดยสำนักงานเขตต่าง ๆ โดยสำนักงานเขตบางแคเขตเดียวปลูกไปแล้วกว่า 6 หมื่นต้น ครองแชมป์ยอดปลูกต้นไม้สูงสุดมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2566 ตามมาด้วยภาคเอกชนอย่างบริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) ที่มียอดร่วมปลูกต้นไม้ในโครงการอยู่ที่ 38,850 ต้น ขณะที่ภาคประชาชนยังมียอดปลูกอยู่ที่ 2,200 ต้นเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยกว่าเป้าหมายที่โครงการคาดหวังไว้ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะหลาย ๆ คนยังไม่มีแรงจูงใจในการปลูกต้นไม้มากพอ หรือเป็นไปได้ว่ามีคนที่ปลูกต้นไม้อยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ทราบวิธีการบันทึกการปลูกต้นไม้บนเว็บไซต์ Bangkok Tree เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในโครงการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้นได้
ผ่านไปเพียง 2 ปี ระบบรายงานการปลูกต้นไม้อย่าง Bangkok Tree ได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่าเส้นชัยอยู่ใกล้แค่เอื้อม หากทุกภาคส่วนช่วยกันปลูกต้นไม้อีกไม่กี่หมื่นต้นเราก็จะบรรลุเป้าหมาย 1 ล้านต้นกันแล้ว ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เกือบ 2 เท่าตัวเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม โครงการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น เป็นโครงการที่มองถึงเป้าหมายระยะยาว เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการแก้ปัญหา “ความร้อนระอุ” และ “ฝุ่นควัน” ในกรุงเทพมหานคร ทุกฝ่ายต้องช่วยกันดูแลต้นไม้ที่ปลูกอย่างดี ทั้งนี้ บริษัท โอเพ่น ดรีม จำกัด ในฐานะผู้ดูแลระบบ Bangkok Tree ยังคงมีแนวคิดที่จะพัฒนานวัตกรรมให้ดียิ่งขึ้นต่อไป แม้เป้าหมาย 1 ล้านต้นจะใกล้สำเร็จแล้วก็ตาม โดยจะมีการเพิ่มเติมส่วนของแผนที่ที่จะแสดงผลข้อมูลการปลูกต้นไม้ให้ละเอียดมากขึ้น รวมถึงพัฒนาในส่วนของการแสดงผลภาพรวมการปลูกต้นไม้ ที่จะสามารถดูแยกแบบ Cluster ได้ นั่นคือ ผู้ใช้จะสามารถกดเลือกแต่ละเขตแล้วระบบจะแสดงมุมมองที่หลากหลายมากขึ้น ถ้าท่านใดสนใจศึกษารายงานการปลูกต้นไม้ในกรุงเทพมหานครหรือต้องการบันทึกต้นไม้ที่ปลูก สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่
แหล่งอ้างอิง
- https://theactive.net/data/million-trees-governor
- https://www.facebook.com/tpdinfo/
- https://tree.bangkok.go.th/
- https://mgronline.com/qol/detail/9650000052200
- https://www.thesustain.space/leaders-vision/สิงคโปร์-city-in-a-garden/
- https://www.greenery.org/ชีวิตคนเมืองเฮลท์ตี้ที/
บทความโดย
นางสาวหัฏฐฌา กองจิว (เอย)
นักพัฒนานวัตกรรม ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อสังคม
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)